Posted: 17 December 2006 at 22:58 | IP Logged
|
|
|
บันทึกการเดินทางกับคุณย่าเยาวเรศ บุนนาค วันที่ 2 ธันวาคม 2549
ข้าพเจ้าได้ไปหาคุณย่าในวันที่ 1 ธันวาคม 2549 และ คุณนิตยา (ภริยา) เพื่อซื้อหนังสือสิบปีคุณย่าและซีดีมงคลสามสิบแปดประการ คุณย่าได้ชวนให้ข้าพเจ้าไปเขาชะเมากับท่านด้วยในวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นโดยทีมงานจะเดินทางในตอนเช้าเวลาหกโมงเช้า ข้าพเจ้าไม่ได้ปฏิเสธ
ข้าพเจ้าตื่นมาประมาณตีสามครึ่งหรือตี่สี่เพื่อมาทำสมาธิจนถึงต ีห้าแล้วนอนหลับไปจนกระทั่งภริยามาปลุกตอนตีห้ายี่สิบนาทีและได ้เผลอเหยียบแว่นจนเอ็นที่รัดแว่นขาด ข้าพเจ้านำแว่นมาด้วยเพื่อซ่อมที่ร้านแว่นพัทยา
ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงอาคารพรสวรรค์ประมาณหกโมงเช้าและได้พบพี่แ ดงและสามี พี่วรรณี พี่นุชและพี่ทอง คนขับรถของพี่วรรณี และคุณย่า
พวกเราจัดเตรียมโอ่งและเอกสารพร้อมกระเป๋าขึ้นรถ เสร็จแล้วก็ไปทานข้าวต้มที่คุณย่าจัดไว้ให้ ซึ่งอร่อยมากและเป็นประโยชน์ในการเดินทางต่อไป
หลังจากเราก็ออกเดินทางไปเขาชะเมาที่จังหวัดระยองโดยในระหว่างท างคุณย่าได้เล่าเรื่องการขับไล่หนูโดยการนำใบแคฝรั่งมาคลุกกับข ้าวสุกแล้ววางให้หนูทาน โดยคุณย่าเล่าว่ารถพี่พงษ์ มีหนูมารบกวน พี่พงษ์ใช้อุปกรณ์ที่ไฮเทคมาขับไล่ก็ไม่ได้ผล คุณย่าต้องเดินทางไปเก็บใบแคฝรั่งมาคลุกกับข้าวสุกแล้ววางไว้ ปัจจุบันไม่มีหนูในรถพี่พงษ์อีก
นอกจากนั้นพวกเราได้คุยกันเรื่องอื่นๆอีก และพี่วรรณีก็ได้เปิดเพลงของหยาดนภาลัยที่ร้องคู่กับวงจันทร์ ไพโรจน์ให้ฟัง จนถึงทางแยกที่จะไปเขาชะเมา พวกเรานั่งรอคนนำทางอยู่พักใหญ่ จึงได้เดินทางไปถึงเขาชะเมาตอนเก้าโมงกว่า
อ้อ ข้าพเจ้าลืมบอกไปว่าในการเดินทางครั้งนี้ มีคณะเดินทางจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาแบบยั่งยืน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ประกอบด้วยอาจารย์วิชัย รูปขำดี, อาจารย์ อานันท์ธานินทร์ นามเมือง, อาจารย์สมบัติ รูปขำดี ซึ่งทีมงานนี้ไปถึงก่อนเราเล็กน้อย
เมื่อไปถึงแล้ว ทางชาวบ้านนำโดยหัวหน้าศูนย์ฯ ได้ทำการต้อนรับแล้วนำเราเข้าห้องประชุมพร้อมบรรยายว่าเดิมพวกเ ขาได้ใช้สารเคมีในการปลูกทุเรียน(เรียกว่าสารทุเรียน)และยางพาร า ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อดิน(ทำให้ดินข้างล่างแข็งน้ำซึมได้ช้า) และร่างกายของเขา(บางคนเป็นภูมิแพ้จนถึงปัจจุบัน) เป็นต้น พวกเขาเลยปรับเปลี่ยนมาใช้เกษตรธรรมชาติโดยใช้ปุ๋ยหมัก (ปุ๋ยคอสมิค) แทน ทั้งนี้เพราะเขาสังเกตเห็นบักเตรีสีขาวที่เกิดขึ้นเยื่อไผ่ ในปีหนึ่งเขาได้ทดลองไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเบอร์ 15 และเขาพบว่า ต้นไม้ก็แตกหน่อเหมือนกัน ในปีต่อมาเขาก็เลยไม่ใช้ปุ๋ยเบอร์ 15 แล้วหันมาใช้ปุ๋ยคอสมิคแทน สภาพดินก็ดีขึ้นและได้ผลผลิตมากขึ้น แต่เขาก็ยังใช้ปุ๋ยเบอร์ 8-24 อยู่
นอกจากนี้คุณสวัสดิ์ บุญหอม ก็ได้นำปุ๋ยคอสมิคไปใช้ทำให้สามารถปลูกมันฝรั่งได้ผลโตจนเป็นที่สนใจของท่านนากยก อบต. ซึ่งท่านได้สอบถามและขอซื้อปุ๋ยที่ชมรมนี้จัดทำขึ้นไปใช้ ปัจจุบันชมรมผลิตปุ๋ยไม่ค่อยทันกับความต้องการของท่านนายก อบต. เลย
หลังจากนั้นอาจารย์วิชัยได้กล่าวถึงแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่พระเจ ้าอยู่หัวทรงแนะนำให้พวกเราคนไทยนำไปใช้ว่ามีอยู่ห้าประการคือ
ก) มีความพอประมาณ หมายความว่าเมื่อกระทำการสิ่งใดต้องตั้งอยู่บนกำลังการผลิตที่ต นเองมีอยู่ไม่โลภแล้วให้ขยายกำลังการผลิตตามกำลังความสามารถที่ ตนเองและทีมงานสามารถทำได้
ข) ต้องมีเหตุมีผลในการกระทำหรือไม่กระทำทุกประการ นั่นหมายความว่า เราจะกระทำการผลิตหรือไม่กระทำการผลิตสิ่งใด เราต้องรู้เรากระทำไปเพื่อสิ่งใด แล้วสิ่งนั้นตอบสนองความต้องการหรือบรรลุเป้าหมายที่เราต้องการ ทำหรือไม่
ค) มีภูมิคุ้มกัน นั่นหมายความว่า หากเราคิดทำสิ่งใดเป็นกระบวนการแล้ว(โดยถือหลักการข้อ ก และข้อ ข แล้ว) เราก็จะรู้ว่าเราจะได้อะไรเป็นการตอบแทน เช่นลดล้างหนี้สินหรือทำให้สุขภาพเราดีขึ้นเป็นต้น
ง) ต้องมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่เรากระทำการ อันก่อให้เกิดความสนใจใส่ใจ ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งที่เรากระทำตลอดเวลา อย่างเช่นการทำปุ๋ยหมักของชมรม เราจะเห็นพัฒนาการตั้งแต่ค้นพบบักเตรีและหาทางจัดเก็บรักษาดูแล ค้นคว้าเพิ่มเติมจนได้พบกับคุณย่าซึ่งสอนการทำปุ๋ยพ่อ ปุ๋ยแม่เป็นต้น
จ) มีคุณธรรม นั่นหมายความว่าเราจะมีซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อตนเองและลูกค้า สิ่งใดที่เราผลิตออกมาแล้วไม่ได้ก็บอกเขาตรงๆว่าไม่ดี นั่นเป็นการสร้างความเชื่อถือ(เครดิต)ที่ลูกค้าจะมีต่อสินค้าขอ งเรา เขาจะเชื่อมั่นว่าสินค้าที่เราขายให้มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคาที่ซื้อขายกัน เป็นการสร้างเครือข่ายในระยะยาว แล้วทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นและความสบายใจ และสุขภาพกายสุขภาพกายของเราและของลูกค้าก็จะดี
หลังจากนั้นชาวบ้านได้พูดถึงประสบการณ์ให้พวกเราฟังดังนี้
นายวิวัฒน์ ชื่นอุดมและภริยา
เดิมเขาใช้ปุ๋ยเคมี มีผลทำให้ภริยาเป็นภูมิแพ้ มาปีหนึ่งเขาลืมใส่ปุ๋ยเบอร์ 15 แต่ก็สังเกตเห็นว่าต้นไม้แตกกิ่งแตกใบดี จึงเลิกใช้ปุ๋ยดังกล่าวในปีต่อมาแล้วหันมาใช้ปุ๋ยหมัก ซึ่งเมื่อใช้แล้วดินดีขึ้นไม่แข็ง ปัจจุบันใช้ปุ๋ยหมักเป็นประจำ ส่วนปุ๋ยเบอร์ 18-24 ยังใช้อยู่
ตำแหน่งปัจจุบัน เลขา นายก อบต.
นาย นรินทร์ รัตนะวิชัย
เดิมใช้ปุ๋ยเคมีและได้เข้ามาอบรมการใช้ปุ๋ยคอสมิคเห็นว่าดีจึงป รับเปลี่ยน ผลทุเรียนอร่อยขึ้นและใส่ไม่ซึมถึงแม้จะเจอฝนตกมากก็ตาม
นายสวัสดิ์ บุญน่วม
มีสวนยางทั้งหมด 17 ไร่ เดิมใช้ปุ๋ยเคมี หน้าดินแห้ง ต่อมาหันมาใช้ปุ๋ยหมักแล้วพบว่าได้ผล 100%
นาย บุญยัง ธูปหอม
เขาบอกว่าเดิมเขาเห็นว่าต้นยางของเขาหมดสภาพแล้วกำลังจะโค่นทิ้ ง แต่ได้ทราบเรื่องปุ๋ยหมักเลยหันมาลองใช้ดู ผลปรากฏว่า ได้ผลผลิตดีกว่าเดิม 3 เท่า เขาบอกว่าเขาใช้มาแคเดือนกว่าๆเอง ทำไร่สวนยางทั้งหมด 4 ไร่ นอกจากนี้มีสวนเหงาะโรงเรียน เดิมใช้ปุ๋ยเคมี พอเหงาะโดนฝนก็จะแตก แต่พอหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพ ผลปรากฏว่าเสียเพียง 1 ส่วนได้ 3 ส่วน ปัจจุบันไม่เสียเลยคือได้ผล 100%
หลังจากนั้นเราเดินทางไปเยี่ยมชมงานที่ศูนย์เรียนรู้อีกแห่งหนึ ่งที่ห่างออกไปประมาณสามกิโล ซึ่งเราได้พบว่าเขาได้จัดการที่ดินสิบห้าไร่ให้ปลุกพืชเศรษฐกิจ ทั้งสวนยาง ผักหวาน มะละกอ กล้วย กล้วยไม้และอื่นอย่างเหมาะสมเพื่อที่จักได้ผลผลิตมาจำหน่ายตลอด ทั้งปี
เราพบว่าพวกเขาทำงานหนักมากอย่างเช่นผักหวาน เขาต้องตื่นมาเก็บตั้งแต่ตีสามเพื่อให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ในขณะที่ระหว่างวันเขาต้องทำงานดูพืชสวนผักอื่นๆในตอนกลางวัน บางครั้งได้นอนแค่สามชั่วโมงเอง เป็นการทำร้ายร่างกายตนเองแท้ๆ
ต่อจากนั้นเราได้เดินทางไปที่ Royal Cliff Beach Resort เพื่อร่วมฉลองงานรางวัล TTG Travel Hall On Fame, Aware of Excellence-Thailand Tourism Award และ Environment Impact Mornitoring Award 2006 ของโรงแรม ซึ่งคุณย่าได้รับเชิญตามจดหมายลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2549 โดยทางรีสอร์ทจัดงานในคืนวันที่ 2 ธันวาคม โดยงานเริ่มขึ้นเวลา 19.00 น. จนถึงประมาณ 20.30 น.
ในวันรุ่งขึ้นหลังทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วคุณย่าได้พาทีมงานไ ปอบรมให้เจ้าหน้าที่ Nursery ของโรงแรมทราบถึงการทำปุ๋ยพ่อ ปุ๋ยแม่อย่างละเอียดดังรูปที่นำมาเสนอจนกระทั่งเวลา 9.30 น ทีมงานได้เดินทางไปเข้าห้องประชุมที่ตึก Grand เพื่อฟังการบรรยายของ อาจารย์วิชัย เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงและนำเสนอให้ทีมงานของโรงแรมจัดทำแผนก ารพัฒนาตนเองว่าจะลดละเลิกสิ่งใดบ้าง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และพนักงานของรีสอร์ทได้แสดงเจตนาที่จะลด ละ เลิกสิ่งต่อไปนี้
ก) เลิกการพนัน
ข) เลิกทานเหล้า
ค) เลิกประพฤติผิดในกาม
ง) จะไม่มาทำงานสาย
จ) จะไม่พูดจาส่อเสียดหรือให้ร้ายพนักงานด้วยกันเอง หรือบุคคลในครอบครัวและ ญาติ
ฯลฯ
ทั้งนี้เพื่อถวายแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราชาวไทย ในวันที่ 5 ธันวาคมศกนี้
หลังจากนั้นทีมงานได้รับประทานอาหารกลางวันจนเป็นที่เรียบร้อย แล้วเดินทางกลับถึงอาคารพรสวรรค์ประมาณ 16.30 น
อำนาจ งามสุริยโรจน์ ผู้บันทึก คุณย่า เยาวเรศ บุนนาค ผู้ตรวจทาน
|