Posted: 18 January 2009 at 21:23 | IP Logged
|
|
|
สำหรับผู้มาใหม่ / คำถามที่ถูกถามบ่อย (FAQ)
1.สมาคมฯ นี้มีวัตถุประสงค์อะไร?
2.รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
3.เสียค่าใช้จ่ายหรือไม่?
4.สมาคมฯ มีรายได้จากทางใด?
5.การเข้ารับการอบรม ต้องทำอย่างไรบ้าง?
6.เรียนที่ไหนได้บ้าง?
7.ต่างจังหวัดมีไหม?
8.รักษา แล้วหายไหม?
9.การรักษาแต่ละครั้งนานใช้เวลานานเท่าใด? วันหนึ่งกี่ครั้ง? และต้องรักษากี่วันถึงจะหายไข้?
10.สมาคมฯ ตั้งอยู่ที่ใด? รถเมล์สายใดผ่านบ้าง?
11.เรียนกี่วัน?
12.เรียนยากไหม? ทุกคนเรียนได้ไหม?
13.ใครเป็นอาจารย์?
14.เป็นไสยศาสตร์หรือไม่? ต้องเป็นชาวพุทธหรือไม่?
15.ต้องมีการครอบครู หรือ ยอมรับข้อแม้อะไร หรือไม่?
1.สมาคมฯ นี้มีวัตถุประสงค์อะไร?
วัตถุประสงค์(แบบย่อ) คือ
เพื่อจัดกา รอบรมวิชาพลังกายทิพย์ และให้การบำบัดรักษา แก่บุคคลทั่วไป
วัตถุประสงค์(แบบเต็ม)
1-ศึกษาค้นคว้าวิจัยและอบรม วิชาพลังกายทิพย์(พลังงานธรรมชาติในร่างกายมนุษย์)
2-อบรมให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฎิบัติ
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับรู้จักใช้พลังกายทิพย์ป้องกั น และรักษาสุขภาพตนเองและผู้อื่น
3-เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ข่าวสารข ้อมูลเกี่ยวกับ วิชาพลังกายทิพย์เพื่อสุขภาพ
อันประกอบด้วย การฝึกสมาธิ ฝึกเดินลมปราณ และฝึกโยคะ ให้แก่มวลชนทั่วโลก
4-นำวิชาพลังกายทิพย์เข้ามาช่วยผสม ผสานกับแพทย์แผนปัจจุบัน
ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกัน และบำบัดโรค
5-ดำเนินการด้วยตนเอง หรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณะประโยชน์
6-ส่งเสริมงานวัฒนธรรม อนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
**จากใบจัดตั้งสมาคม**
เลขอนุญาตที่ ค ๓๘๙/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๔
2.รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
สามารถบำบัดรักษาได้มากมายหลายโรค(โดย ใช้พลังจิต) ทั้งโรคที่ทราบสาเหตุ และไม่ทราบสาเหตุ แต่ถ้ามีผลการตรวจโรคจากแพทย์แผนปัจจุบันมาด้วย จะทำให้ รักษาได้ตรงจุดมากขึ้น (ช่วยบรรเทาอาการ หรือหายได้ง่ายขึ้น)
3.เสียค่าใช้จ่ายหรือไม่?
ทางสมาคมฯ ทำเพื่อเป็นการกุศล ผู้มารับการรักษา หรือมาอบรม จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
4.สมาคมฯ มีรายได้จากทางใด?
เงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทราในงานขอ งสมาคมฯ และค่าสมาชิกรายปี
5.การเข้ารับการอบรม ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ท่านสามารถมาสมัครด้วยตนเองได้ที่สม าคมฯ ในวันที่เปิดอบรม (ดูได้จากตารางกำหนดการอบรม )
หรือ ที่อื่นตาม ที่ระบุไว้ในตารางอบรม
ไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานใดๆ ควรพูด-เขียนภาษาไทยได้ เคยมีชาวต่างชาติ มาเรียนสำเร็จไปแล้ว 4-5 คน แต่ต้องประสานงานอย่างใกล้ชิด (ทางเราจัดหาล่ามช่วยแปล)
ใช้สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ
6.เรียนที่ไหนได้บ้าง
ปกติ ที่สมาคมฯ จะเปิดอบรมทุกเดือน ส่วนสถานที่อื่นๆ มีการเปิดอบรมเป็นครั้งคราว (ดูได้จากตารางกำหนดการอบรม )
7.ต่างจังหวัดมีไหม?
มีเปิดสอนหลายจังหวัด (รวมทั้งต่างประเทศด้วย แต่ไม่บ่อยนักเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง) (ดูได้จากตารางกำหนดการอบรม )
8.รักษา แล้วหายไหม?
ดูผลการรักษาได้จาก หน้ากระดานข่าว หัวข้อ "ประสบการณ์"
หรือ ดูได้ที่รายงาน ผล งานวิจัยนายแพทย์ชิน บูรณธรรม
9.การรักษาแต่ละครั้งนานใช้เวลานานเท่าใด? วันหนึ่งกี่ครั้ง? และต้องรักษากี่วันถึงจะหายไข้?
การรักษาครั้งหนึ่งๆ ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
วันหนึ่งสามารถรักษาได้เพียงครั้งเดียว ยกเว้นโรคที่ร้ายแรง
สามารถเพิ่มการรักษาเป็นวันละ 2 ครั้งก็ได้ (แต่ต้องห่างกันอย่างน้อย 6
ชั่วโมง)
ต้องรักษากี่วันจึงหายนั้น ไม่สามารถกำหนดได้แน่ชัด
ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งระดับของโรค ตัวผู้ป่วยเอง สภาพแวดล้อม
การใช้ชีวิตประจำวัน เป็นต้น **บางกรณีอาจหายได้เพียงการรักษาครั้งเดียว**
บางกรณีสามครั้ง บางกรณีเป็นปี หรือ ต้องรักษาไปตลอดชีวิตก็มี
(เช่นโรคเบาหวาน เป็นต้น)
10.สมาคมฯ ตั้งอยู่ที่ใด? รถเมล์สายใดผ่านบ้าง?
สมาคม"สถาบันพลังกายทิพย์เพื่อสุขภาพ" อาคารพรสวรรค์ เลขที่ 40/4 ถนนเทศบาลนิมิตรใต้ ถนนประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กทม.10900
มีรถเมล์สาย 37 ผ่าน หรือ อาจนั่งรถมอเตอร์ไซด์จากวิน ที่หน้าวัดเสมียนนารี ก็ได้
ดูแผนที่
11.เรียนกี่วัน?
ระดับแรก (ปฐมจักระ) เรียน 6 วัน วันละ 2 ชั่วโมง (ก็มีความสามารถพอใช้รักษาโรคต่างๆได้แล้ว) แต่ถ้าต้องการให้เต็มสูตร ควรเรียนระดับที่สองเพิ่มอีก(พัฒนาจักระ) 2 วัน
12.เรียนยากไหม? ทุกคนเรียนได้ไหม?
เราสอนตั้งแต่ระดับเริ่มต้น คือไม่มีความรู้พื้นฐานมาเลย ด้วยภาษาง่ายๆ
กระชับ และครบถ้วน สามารถเรียนได้ทุกคน (ถ้ามีความรู้พื้นฐาน ด้านสมาธิ
ลมปราณ สรีระมนุษย์ มาบ้างจะทำให้เรียนได้ง่ายขึ้น)
13.ใครเป็นอาจารย์?
ปรมาจารย์คนแรก คือ ท่านฟาโรห์โซเซอร์แห่งอียิปห์
ผู้ที่ถ่ายทอดมาคนแรก คือ หลวงปู่ดาสิรา นาราดา (พระภิกษุ ชาวศรีลังกา) พลเรือตรีหลวงสุวิชาญแพทย์ ดร.โรเบิร์ท แชนนี่ คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค มาสเตอร์ที่เรียนสำเร็จขั้นกายทิพย์ อีกนับร้อย ๆ คน
14.เป็นไสยศาสตร์หรือไม่? ต้องเป็นชาวพุทธหรือไม่?
ไม่ใช่ไสยศาสตร์แน่นอน ไม่มีการเสกมนต์ คาถา หรือ
ใช้ความเชื่อเหนือโลกใดๆ ทุกสิ่งเป็นวิทยาศาสตร์ และไม่ขึ้นกับศาสนาพุทธ
ผู้เรียนที่นับถือศาสนาใดๆ ก็สามารถเรียนได้ (ที่อเมริกา สอนอิงศาสนาคริสต์- ที่ไทย สอนอิงศาสนาพุทธ) 15.ต้องมีการครอบครู หรือ ยอมรับข้อแม้ อะไร หรือไม่? การเรียน การสอนของเรา เป็นแนววิทยาศาสตร์ ไม่ต้องครอบครู ไม่มีกฏระเบียบข้อแม้ใดๆ เพียงแต่ขอให้ถือศีล 5 ในระหว่างที่เรียนเท่านั้น เพื่อให้จิตบริสุทธิ์ ทำสมาธิได้ง่าย (ผู้ที่นับถือศาสนาใดๆ ก็สามารถถือ ศีล 5 ข้อได้ ระหว่างเรียนเท่านั้น) การนั่งสมาธิ ก็นั่งเก้าอี้ปกติ ไม่ต้องนั่งขัดสมาธิ ใส่เสื้อผ้าสีใดก็ได้ (สุภาพ ปกติ) ไม่ต้องนุ่งขาวห่มขาว และไม่ต้องมีพื้นฐานใดๆ มาก่อน
Edited by Editor on 04 September 2016 at 16:57
|